ลิ้งค์ข่าวห้องข่าวอัมรินทีวี

โดยพบว่าเพลิงกำลังลุกไหม้บริเวณด้านหลัง โดยเพลิงเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันนำรถดับเพลิงพยายามฉีดดับเพลิงแต่เป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะไม่สามารถเข่าไปทางด้านหลังได้

ซึ่งตอนนี้ใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมง ยังไม่สามารถควบคุมไว้ได้ เบื้องต้นสาเหตุยังไม่ทราบสาเหตุเพลิงไหม้ ซึ่งกำลังพยายามสกัดเพลิงอยู่ในวงจำกัด สำหรับช่วงนี้ภายในวอล์กกิ้งสตรีท ยังเปิดให้บริการไม่ได้ตามคำสั่งรัฐในการควบคุม

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ครูบุรีรัมย์ ธุรกิจเงินกู้เจ๊ง จุดธูปบูชา ไอ้ไข่ หวังชีวิตดีขึ้น แต่ลืมดับ ไฟไหม้วอดทั้งหลัง
- ไฟไหม้โชว์รูมรถ ลามซูเปอร์สโตร์ วอด 18 คูหา เผา จยย.และรถหรู เสียหายรวม 150 ล้าน
- เปิดภาพดาวเทียม ย้อนอดีต 30 ปี โรงงานกิ่งแก้ว ก่อนเกิดเหตุไฟไหม้

แต่หญิงสาวกระโดดลงจากรถจักรยานยนต์หนีออกมาได้ หลังเกิดเหตุผู้เสียหายได้มีการแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับ ข้าราชการตำรวจนายดังกล่าว โดยเหตุเกิดในท้องที่ อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์

ต่อมา บก.ปอท. ได้ตรวจสอบแล้ว พบว่าบุคคลดังกล่าวที่ปรากฏตามข่าวเป็นข้าราชการตำรวจในสังกัดจริง มียศ พ.ต.ต. ตำแหน่งสารวัตร กก.3 บก.ปอท. เบื้องต้นทางต้นทางสังกัดได้ประสานข้อมูลกับ ผกก.สภ.ชุมแสง ทราบว่า ข้าราชการตำรวจดังกล่าว ถูกผู้เสียหายแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีในข้อหา กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปี โดยคดีอยู่ระหว่างการสอบสวน

ทั้งนี้ พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปอท. สั่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง และมีคำสั่งให้ข้าราชการตำรวจนายดังกล่าว มาปฏิบัติหน้าที่ประจำ ที่ บก.ปอท. แล้ว โดยได้กำชับให้คณะกรรมการฯเร่งดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วยความรวดเร็ว และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่างตรงไปตรงมา หากพบว่าข้าราชการตำรวจดังกล่าวกระทำผิดจริงจะดำเนินการทั้งทางวินัย และทางอาญา อย่างเด็ดขาด

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ป.ป.ช. ยืนยัน ไม่ได้เตะถ่วง คดีเครื่องบินตำรวจลักลอบขนเหล้าเถื่อน
- เด้ง ผกก.สีชมพู ช่วยราชการ หลังพบตำรวจนอนหลับไม่รับแจ้งความ
- สั่งออกราชการ! ตำรวจใช้ รถหลวงขนบุหรี่เถื่อน 600 ซอง

ล่าสุด น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจและการคลัง หรือ สศค. เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างปรับเกณฑ์การเปิดลงทะเบียน บัตรคนจน รอบใหม่ เพื่อให้คณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการฐานรากและสังคม ซึ่งมี รมว.คลังเป็นประธานให้พิจารณา อาจจะมีการเปิดให้ลงทะเบียนรอบใหม่ในปีนี้ โดยเป็นการแนวทางการลงทะเบียนใหม่ เช่น พิจารณาจากผู้รับสิทธิ จากเดิมกำหนดรายละไม่เกิน 1 แสนบาทต่อปี ปรับเป็นรายได้ต่อครัวเรือนเฉลี่ยต่อหัว ยกตัวอย่างเช่น กรณี แม่บ้าน ถ้ามีรายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือนไม่ถึง ก็ยังถือบัตรคนจนได้

ส่วนผู้ที่เคยถือบัตรคนจน แต่ช่วงที่ผ่านมา มีรายได้ มีงานทำ เช่น ข้าราชการ พนักงานเอน รวมถึงจะมีการพิจารณานำทรัพย์สิน เช่น สมุดบัญชี ที่ดิน บ้าน มาพิจารณา หากพบว่าไม่เข้าเกณฑ์ก็ต้องถูกตัดออกจากระบบ

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่เปิดลงทะเบียน รอกำหนดการเปิดลงทะเบียนจากกระทรวงการคลังอีกครั้ง

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เตรียมเปิดลงทะเบียน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รอบใหม่ ครอบคลุมกลุ่มตกหล่น 2 ล้านคน
- เช็กก่อน! บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เตรียมเปิดลงทะเบียนใหม่ พร้อมปรับเกณฑ์รายได้
- เช็กเลย! บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผู้สูงอายุ รับ 500 หรือ 1,000 บาท กดเป็นเงินสดได้
- บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เช็กเลย! เตรียมโอนเงินสงเคราะห์ตกเบิก ผู้สูงอายุ 3 ก.ย.นี้

โดยที่เกิดเหตุอยู่ในพงหญ้าริมถนน สภาพเป็นป่าหญ้ารกมีน้ำขัง พบร่างทารกถูกทิ้งไว้ สภาพผิวหนังถูกไฟไหม้เกรียมดำเป็นตอตะโก ใกล้กันพบผ้าขนหนูสีเขียวที่มีรอยไหม้ทิ้งไว้ข้างศพ ตรวจสอบเบื้องต้นเป็นเพศชาย ความสูงประมาณ 30 เซนติเมตร คาดเป็นเด็กทารกแรกเกิด ก่อนจะนำศพส่งพิสูจน์ที่ รพ.เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ระยอง

ล่าสุดทีมข่าวได้รับรายงานว่า ตำรวจทราบตัวผู้ก่อเหตุเรียบร้อยแล้ว ก่อนเชิญตัวแม่เด็ก อายุประมาณ 17 ปี พ่อเด็กอายุไล่เลี่ยกัน และครอบครัวมายังสภ.มาบตาพุด ตั้งแต่เวลา 13.00 น. จากนั้นได้สอบปากคำ กระทั่งเวลา 19.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังคุมตัวทั้งคู่อยู่ภายในห้องสืบสวน

ขณะเดียวกันทีมข่าวได้กล้องวงจรปิด ขณะที่กลุ่มวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์มาจอด 3 คัน โดยมีชายสวมใส่เสื้อยืด กางเกงขาสั้น เดินมาที่รถจักรยานยนต์ ก่อนเปิดเบาะและได้หยิบกระเป๋าออกมา ก่อนที่จะเดินไปที่จุดที่พบศพเด็ก ผ่านไปครู่หนึ่งจะเห็นว่าเกิดประกายไฟออกมา 

ชาวบ้านในพื้นที่ ผู้ที่พบศพทารก เปิดเผยว่า ตนกับเพื่อนชวนกันมาหาปลาหาผักบุ้ง ขณะที่กำลังเดินเข้าไปในพงหญ้าที่มีน้ำขัง ก็พบกับร่างเด็กถูกไฟไหม้ ในตอนแรกคิดว่าเป็นตุ๊กตายางก็เลยใช้ไม้เขี่ยดู จึงเห็นว่าเป็นทารก ก่อนจะรีบโทรศัพท์แจ้งตำรวจเข้ามาตรวจสอบทันที

นายโอ๊ต (นามสมมติ) อายุ 24 ปี ชาวบ้าน กล่าวว่า ภายหลังจากเกิดเหตุตนได้ไปดู และได้เปิดกล้องวงจรปิด พบว่ามีรถจักรยานยนต์ของผู้ก่อเหตุมาจอด และได้หยิบกระเป๋าออกมาจากใต้เบาะรถ ก่อนนำไปเผา ภายหลังจากที่ดูกล้องวงจรปิด มีชายที่อยู่ในเหตุการณ์เข้ามาสอบถาม พฐ. ว่าเกิดอะไรขึ้น ขณะเดียวกันตนจำรถของผู้ก่อเหตุได้ จึงบอกกับตำรวจ พอตำรวจทราบจึงได้รีบขับรถตาม แต่ไม่สามารถตามทัน

โดยกลุ่มผู้ก่อเหตุ ตนคาดว่าเป็นวัยรุ่นในพื้นที่ แต่ไม่ทราบว่าเป็นคนในชุมชนใด ซึ่งตนจะเห็นว่าวัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวมักขี่รถจักรยานยนต์ผ่านหน้าบ้านของตนไปสวนสาธารณะที่เกิดเหตุเป็นประจำ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนมองว่าแม่เด็กน่าจะทำแท้ง เพราะเด็กทารกอายุ 9 เดือนกว่าแล้ว หากแท้งก็ไม่น่าจะแท้งได้ ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นครั้งแรกของหมู่บ้าน ตนยอมรับว่าสงสารเด็ก และตนก็อยากให้วัยรุ่นกลุ่มดังกล่าว หากมีอะไรก็ควรป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้

อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.ภาสกร ไพจิตต์ ผกก.สภ.มาบตาพุด ให้ข้อมูลว่า ภายหลังจากเกิดเหตุได้ให้ชุดสืบในพื้นที่ตรวจสอบ และสอบถามชาวบ้าน จนทำให้พบผู้ก่อเหตุแล้ว ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบปากคำพ่อและแม่เด็ก เบื้องต้นผู้ก่อเหตุเป็นเยาวชนในพื้นที่ ซึ่งกระบวนการสอบสวนนั้นเป็นไปด้วยความละเอียดอ่อน เนื่องจากทั้งคู่ยังเป็นเยาวชน ตำรวจต้องให้ทาง พม.หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมารับฟังการสอบคำด้วย

โดย พลอย เฌอมาลย์ นอกจากนั่งฟรอนต์โรว์ชมแฟชั่นโชว์เก๋ๆ แล้ว ยังได้ร่วมเฟรมกับคนดังระดับฮอลลีวูดอย่าง เฮลีย์ สไตน์เฟลด์ และนักแสดงสาวเจ้าของรางวัล Emmy อย่าง โดฟ คาเมรอน ภายในงานแฟชั่นยังมี คนดังระดับโลกอีกเพียบ เช่น เคนดัลล์ เจนเนอร์, จีจี ฮาดิด, เคท ฮัดสัน 

ภาพจาก : IG@chermarn

ภาพจาก : IG@chermarn

ภาพจาก : IG@chermarn

ภาพจาก : IG@michaelkors

ภาพจาก : IG@michaelkors

ภาพจาก : IG@chermarn

ภาพจาก : IG@chermarn

ภาพจาก : IG@michaelkors

ภาพจาก : IG@michaelkors

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- พลอย เฌอมาลย์ ฟาดปมคดี ผู้กำกับโจ้ อย่าบอกนะว่าจะรอดไปได้อีก ลั่นแฮชแท็ก ทุกชีวิตมีค่า #alllivesmatter
- ตอกย้ำความหวาน! พลอย เฌอมาลย์ ฉลองวันเกิด คลอดีน คนแห่จิ้นความสัมพันธ์
- พลอย เฌอมาลย์ คัมแบ็ก รักษาโควิดหายแล้ว กลับไปทำงานต่อทันที

เมื่อเวลา 15.30 น วันที่ 12 กันยายน 64 ร้อยตำรวจโท ปรัชญ์พิชัย  รองสารวัตรสอบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ รับแจ้งเหตุคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทองในร้านทอง เยาวราชกรุงเทพ ชั้น 1 ห้างบิ๊กซี ถนนรัตนาธิเบศร์ ตำบลบางกระสอ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี จึงพร้อมด้วย พันตำรวจเอกเมษนนท์นาขวัญ ผู้กำกับ สภ.รัตนาธิเบศร์ พร้อมกำลังชุดสืบสวนปราบปราม รุดไปยังร้านทองที่เกิดเหตุ
พบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจประจำร้านทองสามารถรวบตัวคนร้ายรายนี้ได้แล้ว เป็นหญิง อายุเพียง 17 ปี ชาวจังหวัดร้อยเอ็ด และกำลังเป็นนักเรียน เรียนอยู่ชั้น ม.6 โรงเรียนชื่อดังย่านดอนเมือง

จากการสอบสวน นางสาวเอ (นามสมมติ) ทราบว่าก่อนเกิดเหตุ ดาบตำรวจณัฐพล มวลเกษม ผบ.หมู่งานปราบปราม สภ.รัตนาธิเบศร์ ซึ่งทำหน้าที่เฝ้าร้านทองที่เกิดเหตุได้เดินตรวจพื้นที่ต่างๆภายในห้างจากนั้นได้รับแจ้ง จาก รปภ.ของห้างว่ามีเหตุจี้ชิงทองที่ร้านทองดังกล่าวจึงรีบวิ่งไล่กวด คนร้ายและตามจับตัวได้ โดยเด็กนักเรียนหญิงรายนี้ระหว่างก่อเหตุใส่เสื้อสีเหลือง ใส่หมวกแก๊ปสีดำกางเกง Warm ขายาว สีน้ำเงินขลิบขาว ได้เดินตรงไปที่นางสาวกุลปณิษา ดาบุตร หัวหน้าพนักงานขาย ก่อนยื่นแผ่นกระดาษเขียนข้อความว่า ให้เอาทองที่อยู่บนผนังตู้โชว์ใส่ถุงดำที่เตรียมมาให้ โดยในมือยังถือมีดปลายแหลมขนาดใหญ่จะอยู่ที่บริเวณลำตัวนางสาวปาณิษาตลอดเวลา เมื่อคนร้ายได้ทอง จำนวน 1 ถาดใหญ่ ซึ่งส่วนมากจะเป็นทองหนัก 1 สลึง ครึ่งสลึง จำนวน 43 เส้น น้ำหนักกว่า 30 บาท คนร้ายจึงได้วิ่งหลบหนี ออกไปทางหน้าห้าง

ทางด้าน พันตำรวจเอกเมษานนท์ นาขวัญ ผู้กำกับ สภ.รัตนาธิเบศร์  กล่าว่า เด็กนักเรียนหญิงที่เป็นคนร้ายและก่อเหตุครั้งนี้ รับสารภาพว่าสาเหตุที่ลงมือที่ร้านทองเนื่องมาจากตนเองได้นำเงินจำนวน 50,000 บาทไปลงทุน ทางออนไลน์แล้วถูกโกงเงินไป จึงตัดสินใจคิดสั้นขึ้นรถประจำทาง จากบ้านย่านดอนเมือง และมาลงรถที่ห้างดังกล่าว เนื่องจากตนเคยมาเดินเล่นที่ห้างนี้ประจำและเห็นช่องทางลู่ทางเลยก่อเหตุ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างควบคุมตัวสอบสวนปากคำอย่างละเอียด ก่อนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- คนร้ายบุกเดี่ยวจี้ชิงทอง ห้างบิ๊กซี สาขาปากช่อง โคราช บาดเจ็บ 1 ราย
- ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนโทษประหาร ผอ.กอล์ฟ ฆ่าชิงทอง ชี้โหดเหี้ยมไร้มนุษยธรรม
- รวบแล้วโจรบุกเดี่ยวชิงทอง 10 บาท สารภาพติดหนี้พนันบอล

เมื่อวันที่ 12 ก.ย.64 เวลา 13.00 น. ที่บ้านเลขที่ 187 หมู่ 5 บ้านแกเปะ ต.เชียงเครือ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นบ้านของนายวิจิตร วงค์ตาผา อายุ 46 ปี บิดานายพงษ์นเรศ วงค์ตาผา อายุ 25 ปี ผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นคนขี่รถจักรยานยนต์ มีญาติพี่น้องเดินทางมาไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก

โดยมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุข รพ.สต.เชียงเครือ และอสม. ตั้งจุดคัดกรองโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ก่อนที่จะเคลื่อนย้ายศพไปประกอบพิธีฌาปนกิจศพตามประเพณี ซึ่งเผาบนเชิงตะกอนที่วัดประจำหมู่บ้าน บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า ส่วนศพของน.ส.ธิดารัตน์ วงจันทร์เรือง อายุ 19 ปี และลูกสาววัย 8 เดือน ญาติได้นำศพไปประกอบพิธีที่บ้านเกิดใน ต.นาจำปา อ.ดอนจาน จ.กาฬสินธุ์

นายวิจิตร บิดานายพงษ์นเรศ กล่าวว่า หลังจากลูกชายพร้อมลูกสะใภ้ น.ส.ธิดารัตน์ วงจันทร์เรือง อายุ 19 ปี ชาว อ.ดอนจาน จ.กาฬสินธุ์ และหลานสาวอายุ 8 เดือน เสียชีวิต จากอุบัติเหตุ ขณะขี่จักรยานยนต์จะเข้าหมู่บ้าน บนถนนสายเลี่ยงเมือง ใกล้ทางแยกเข้าบ้านแกเปะ เมื่อวันที่ 11 ก.ย.64  โดยถูกรถเก๋งของคู่กรณีชนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุดังกล่าว ทางญาติผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ฝ่าย ได้ตกลงกันแยกศพไปประกอบพิธีทางศาสนา โดยศพนายพงษ์นเรศ ตั้งศพสวดอภิธรรม 1 คืน ส่วนศพของ น.ส.ธิดารัตน์และหลานสาววัย 8 เดือน ได้แยกไปประกอบพิธีที่บ้านเกิด ต.นาจำปา อ.ดอนจาน จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นภูมิลำเนาของลูกสะใภ้

ทั้งนี้หลังเกิดเหตุ เมื่อคืนนี้ทางฝ่ายคู่กรณี ได้ส่งตัวแทนมาแสดงความเสียใจ พร้อมมอบเงินช่วยเหลือจัดงานศพจำนวนหนึ่ง ส่วนรายละเอียดอื่น ๆ จะได้คุยกันในลำดับต่อไป ซึ่งคงจะเป็นหลังจากจัดงานฌาปนกิจศพลูกชาย รวมทั้งลูกสะใภ้และหลานสาวเสร็จเรียบร้อยก่อน คาดว่าคงจะไม่มีปัญหาใด ๆ เพราะเห็นทางตัวแทนฝ่ายคู่กรณีก็พูดเจรจากันด้วยดี

อย่างไรก็ตาม ร.ต.อ.ภาคภูมิ ภูสมนึก รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองกาฬสินธุ์ เจ้าของคดี กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้แจ้งข้อหากับใคร เนื่องจากยังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน รวมทั้งยังรอการสอบปากคำนายสุธี พิสิฐพยัต อายุ 66 ปี เจ้าของรถเก๋ง ซึ่งหลังเกิดเหตุได้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล คาดว่าจะนัดเข้ามาสอบปากคำในวันพรุ่งนี้ (13 ก.ย.64)

ส่วนญาติผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย ก็ยังอยู่ระหว่างการจัดงานศพ จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่ามีร่องรอยการเฉี่ยวชนที่เลนขวา สภาพรถทั้ง 2 คันพังเสียหาย โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องสอบพยานแวดล้อมต่าง ๆ และผู้เห็นเหตุการณ์อย่างละเอียด ซึ่งจะต้องดำเนินการไปตามหลักฐานและต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย

นายกฤติยชญ์ ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อวานนี้ลูกสาว ลูกเขย และหลานสาววัย 8 เดือน ได้เดินทางไปที่บ้านของคุณปู่ กระทั่งระหว่างจะเดินทางกลับบ้าน ทั้ง 3 คนได้ประสบอุบัติเหตุ หลังเกิดเหตุมีญาติโทรศัพท์มาแจ้งข่าว ทำให้ตอนนั้นตนแทบช็อก เพราะมีลูกสาวเพียง 1 คน ที่พอเป็นเสาหลักของครอบครัว ทีแรกตนก็ดีใจเพราะรับแจ้งว่าหลานสาววัย 8 เดือน มีชีวิตรอด อยางน้อยก็จะมีหลานสาวไว้คอยเป็นตัวแทนพ่อแม่ของเขา แต่ดีใจไม่นานก็มาทราบว่าหลานสาวก็เสียชีวิตเป็นศพที่ 3 

สำหรับธิดารัตน์ ลูกสาวของตนเป็นคนร่าเริง ส่วนหลานก็เป็นที่รักของคนในครอบครัว ช่วงเย็นวันนี้ตอนที่เผาศพลูกสาวและหลานสาว ก็มีญาติของคู่กรณีมาร่วมงานศพและแสดงความเสียใจ ส่วนคู่กรณีมาไม่ได้เนื่องจากยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล

ทั้งนี้ "มดดำ" ได้พูดถึง 2 ศิลปินหนุ่มว่า…“แน่นอนนี่คงเป็นปรากฏการณ์อย่างหนึ่งในประเทศไทย และถือเป็นความภาคภูมิใจของคนไทย เราไม่เคยเห็น ซูเปอร์สตาร์ของไทยที่ไปไกลขนาดนี้ ตอนนั้นเรามี นิชคุณ แต่ก็ยังไม่ได้ขนาดนี้ ตอนนั้นเรามี แบมแบม แต่ก็ไม่ได้ขนาดนี้ อันนี้มันคือระดับโลกแล้วจริง ๆ มันเกิดขึ้นกับประเทศเราแล้วจริง ๆ” ทำให้แฟนคลับของทั้ง 2 หนุ่มไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่มดดำพูด หลังจากนั้นบนโลกทวิตเตอร์ก็ได้ติดแฮชแท็ก #แบนมดดำ

หลังจากนั้น แบมแบม ได้ออกมาเคลื่อนผ่านทวิตเตอร์ โดยทวีตข้อความว่า "ไม่เป็นไรครับ บางทีหลาย ๆ คนอาจจะไม่รับรู้ถึงความพยายามของผม แต่มีทุกคนค่อยรับรู้ และเข้าใจ ผมก็มีความสุขแล้วครับ" ซึ่งโพสต์ดังกล่าวถูกรีทวีตไปเป็นหลักแสน พร้อมกับกำลังใจอย่างล้นหลาม

ต่อมา "มดดำ คชาภา" ต้องรีบออกมาโพสต์ขอโทษ นิชคุณ - แบมแบม และแฟนคลับของทั้ง 2 ศิลปิน โดยระบุข้อความว่า "มดดำต้องขอโทษน้องคุณ แบมแบม และแฟน ๆ ทุกคน สำหรับสิ่งที่มดดำได้พูดในรายการแฉ นิชคุณ และ แบมแบม ถือเป็นศิลปินที่เป็น ความภูมิใจของคนไทย และสร้างชื่อเสียงที่ดีให้เมืองไทยมาโดยตลอด ซึ่งส่วนตัวมดดำชื่นชมความสามารถของน้องทั้ง 2 เป็นอย่างยิ่ง มดดำไม่เคยมีเจตนาที่ไม่ดีกับน้องทั้ง 2 คน แต่อาจคิดไม่ดีพอก่อนการพูด ทำให้เกิดความเข้าใจผิด และกระทบต่อน้องทั้ง 2 มดดำขอน้อมรับคำวิจารณ์จากแฟน ๆ และจะนำคำติทั้งหมดมาแก้ไขปรับปรุงการทำงานพิธีกรให้เหมาะสมยิ่งขึ้นในโอกาสต่อไป"

ด้าน คุณแม่ของแบมแบม ได้โพสต์ไอจีเป็นภาพเดินเคียงข้างลูกชายพร้อมแคปชั่นว่า "ความจริงก็รับได้นะ...แต่ก็แหละ! หัวอกคนเป็นแม่..."

ล่าสุดวันที่ 12 ก.ย.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้ติดต่อไปที่ "แบงค์" หรือ นายชินดนัย ภูวกุล พี่ชายของแบมแบม กล่าวว่า ตนเห็นดราม่าเกิดขึ้นในทวิตเตอร์ก็เลยรีบไปดูรายการย้อนหลัง เมื่อได้ฟังสิ่งที่พี่มดดำพูด ยอมรับว่าตกใจ เพราะมันคือการแสดงความคิดเห็นที่ “ไม่ให้เกียรติกันเลย” ซึ่งตนไม่ได้รู้จักกับพี่มดดำเป็นการส่วนตัว แต่ก็เคยเห็นกันบ้าง เนื่องจากตนก็ทำงานอยู่ในวงการบันเทิง แต่อยู่เบื้องหลัง ส่วนแบมแบมกับพี่มดดำเคยเจอกัน พี่มดดำจึงได้ติดตามในไอจีของแบมแบม แต่ตอนนี้เห็นว่าพี่มดดำเลิกติดตามไปแล้ว ตนก็ไม่รู้ว่าเหตุผลคืออะไร แอบงงว่าเลิกติดตามทำไม เขาไม่โอเคตรงไหนหรือไม่ 

ในส่วนของพี่มดดำ ได้ออกมาโพสต์ขอโทษในไอจีนั้น ตนก็ดีใจที่เขาออกมาแสดงความรับผิดชอบ แต่ตนยังติดใจที่เขาแท็กแค่รายการ ไม่ได้แท็กน้องชายของตน เหมือนไม่ได้ขอโทษกับ แบมแบมโดยตรง ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าเขาไม่ได้ตั้งใจจะขอโทษจริง ๆ ซึ่งตอนนี้พี่มดดำก็ไม่ได้ติดต่อมาขอโทษหลังไมค์กับทางครอบครัวของตน

ทางด้านคุณแม่ ที่เห็นว่าออกมาโพสต์ไอจีนั้น ก็เพราะว่าคุณแม่เสียใจมาก ๆ ถึงขั้นร้องไห้ออกมา ก็ตามประสาแม่ลูกที่เห็นลูกชายถูกโจมตี แม่จะเห็นตั้งแต่วันแรกของแบมแบมว่าพยายามแค่ไหน ตนก็ต้องคอยปลอบให้แม่สบายใจมากขึ้น สำหรับสภาพจิตใจของแบมแบม ตนเชื่อว่าเขาคงเสียใจ เพราะเขาก็พยายามอย่างมาก กว่าจะได้มายืนอยู่จุด ๆ ที่ทุกคนเห็น เขาทำงานหนักมากจริง ๆ ซึ่งตนก็ยังไม่ได้พูดคุยกับเขาโดยตรง เพราะงานเขาค่อนข้างมาก แต่ก็ได้ให้กำลังใจไปทางไอจี และทวิตโต้ตอบกันอย่างที่ทุกคนได้เห็น

“กว่าจะไปเกาหลีได้ก็สาหัสมากอยู่แล้วครับ พอเป็นเด็กฝึกก็ทำงานหนักมาก มันเลยมีทั้งความเหนื่อยล้า และสภาพจิตใจหลาย ๆ อย่าง กว่าจะมาเป็นศิลปินได้ แล้วทุกวันนี้เขาก็ทำหน้าที่ศิลปินแบบเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ อย่างเวลาเขาจะทำเพลงใหม่ก็ไม่ได้นอน 4 วันติดเลย เพราะทั้งแต่งเพลงเอง ทำเองทุกอย่าง ทุกวันนี้ได้คุยกับน้องก็เวลาประมาณตี 3 ของเกาหลี เพราะเขาทำงานหามรุ่งหามค่ำ คนที่คอยให้ความช่วยเหลือแบมแบม ตอนอยู่เกาหลีก็คือพี่นิชคุณ 2PM ทำให้ทั้งคู่ค่อนข้างจะสนิทกันมาก พี่นิชคุณก็โดนพี่มดดำลากไปเปรียบเทียบด้วย แต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นเชื่อว่าคงไม่ทำให้ทั้งคู่เครียด แค่เสียความรู้สึกมากกว่า” พี่ชายของแบมแบม กล่าว 

อย่างไรก็ตาม ตนอยากฝากไปถึงพี่มดดำว่า “พี่มดดำเป็นผู้นำความคิดเห็น มีคนเชื่อถือเยอะ เพราะฉะนั้นการที่จะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็น ก็ขอให้ให้เกียรติคนอื่นด้วย เพราะก่อนหน้านี้ก็เห็นผิดพลาดมาหลายเคสแล้ว เข้าใจว่าเป็นสไตล์ แต่ก็อยากให้กรองก่อนจะพูดอะไรออกมา อยากจะฝากไว้ด้วยว่า ศิลปินไทยที่ไปอยู่เกาหลี เขาจะสนิทกันมาก แล้วพวกเขาไม่เคยคุยกันว่าเธอดังเท่าไรแล้ว ฉันหาเงินได้เท่านี้แล้ว เพราะฉะนั้นการแสดงความคิดของพี่มดดำ มันทำให้เสียความรู้สึกกันเองภายในกลุ่มศิลปิน ถึงแม้ว่าทุกคนจะดังไม่เท่ากัน แต่ทุกคนทำงานหนักมากจริง ๆ”